คนขับรถตู้รับส่งนักเรียนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ใช่แค่รถบรรทุกบนทางหลวงที่โดนเรียกเก็บส่วยฯแต่รถตู้รับส่งนักเรียนแต่ละหมู่บ้านทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ ก็โดนเก็บส่วยเช่นกัน
รถที่จะได้รับอนุญาตให้วิ่งรับส่งนักเรียนตามหมู่บ้านต่างๆทุกคัน จะต้องผ่านการตรวจสภาพรถฯ กับกรมการขนส่งฯ ทั้งตัวคนขับ และตัวรถให้ได้มาตรฐาน เช่น ต้องมีถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือ
"โรม"ซัด"ส่วยรถบรรทุก"ช่องทางหาเงินซื้อตั๋วช้าง
ผบ.ตร. ยอมรับมี “ส่วยสติกเกอร์”จริง สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจลุยสอบ
และมีข้อจำกัดว่า รถคันหนึ่งต้องมีนักเรียนบนรถไม่เกิน13 คน เพื่อไม่ให้แออัดเกินไป แต่ส่วนมากยอมจ่ายเงินเพื่อจะได้บรรทุกนักเรียนเพิ่มถึง 20 คน
แต่รถนักเรียนส่วนใหญ่ ไม่ได้ขออนุญาตถูกต้องจากกรมการขนส่งทางบกอยู่แล้ว เวลาเปิดเทอม จะมีคนของนายทุนใหญ่ เจ้าของเส้นทางสัมปทานรถโดยสารฯ จะส่งคนเข้าไปเช็คแต่ละโรงเรียนว่า ที่นี่มีรถตู้วิ่งรับส่งนักเรียนกี่คัน มีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่
ก่อนเรียกให้จ่ายเงินค่าสัมปทานเส้นทาง และจ่ายค่าดูแลเจ้านายฯ เป็นค่าแรกเข้าวิ่งจ่าย 5,000 บาทต่อเทอม และต้องเป็นรายเดือนเดือนละ 200 บาทต่อคัน
จากนั้น ตัวแทนเก็บส่วยจะให้หมายเลขโทรศัพท์ของตัวแทนนายทุนใหญ่เจ้าของสัมปทานเส้นทางฯไว้ หากขับรับส่งนักเรียนไปตามที่ต่างๆจะไม่โดนโบก แต่ถ้าไม่รถคันไหนไม่จ่ายก็จะเจอโบกเช้า-โบกเย็น ส่วนเงินดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปให้นายทุนเดินรถฯ ใหญ่อีกที
คนขับรถตู้ บอกว่า ทุกวันนี้เก็บค่ารายเดือนกับเด็กนักเรียนรายละ 800-900 บาทเท่านั้น หากบรรทุกนักเรียนได้เพียง 10-13คนก็จะไม่คุ้มพอค่านน้ำมัน จึงจำเป็นต้องยอมจ่ายส่วยคำพูดจาก สล็อต true wallet
พร้อมวอนให้ผู้มีอำนาจแก้ปัญหา ให้ตัวแทนนายทุนใหญ่หยุดเก็บส่วย เพื่อไม่เพิ่มภาระของเจ้าของรถ และพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนจะได้จ่ายค่ารถถูกลงมาอีก
เฉพาะในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ มีผู้ประกอบการคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนกว่า 1,000 คันและมีมากที่สุดในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ