ล่าสุดทรัมป์ถูกฟ้องร้องโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ในข้อหาจัดการเอกสารลับของทางการไม่เหมาะสม ถือเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกรัฐบาลกลางยื่นฟ้อง
สื่อต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้อง “โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในคดีอาญาจำนวน 7 กระทง ในจำนวนนี้มีข้อหาการจัดการเอกสารลับของทางการอย่างไม่เหมาะสมและขัดขวางกระบวนการยุติธรรมรวมอยู่ด้วย
ปรับ "ทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น" กว่า 52 ล้านบาท ฐานฉ้อโกงภาษี
“โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตผู้นำสหรัฐฯคนแรกที่โดนฟ้องคดีอาญา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าทรัมป์จะเผชิญกับข้อกล่าวหาใดเป็นพิเศษ ตลอดจนข้อหาอื่นๆ เกี่ยวข้องกับอะไร เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
ด้านทรัมป์ได้โพสต์คลิปลงโซเชียลมีเดีย Truth Social ของตนเองเมื่อคืนวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ยืนยันว่า เขาถูกรัฐบาลกลางฟ้อง และได้รับหมายเรียกให้ไปรายงานตัวต่อศาลรัฐบาลกลางที่เมืองไมอามีในวันอังคารที่ 13 มิถุนายนที่จะถึงนี้
เขายังบอกอีกว่า ตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่ได้ทำอะไรผิด และอ้างว่า การฟ้องร้องดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อขัดขวางไม่ให้เขาลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2024 และเป็นการแทรกแซงกฎหมายเพื่อทำลายชื่อเสียงของเขา
หลังข่าวทรัมป์ถูกตั้งข้อหาเผยแพร่ออกมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนก็ถูกตั้งคำถามว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ก็ออกมาปฏิเสธว่าตนไม่มีส่วนที่ทำให้ทรัมป์ถูกฟ้องร้องอย่างแน่นอน
การฟ้องร้องดังกล่าวสืบเนื่องมาตั้งแต่สิงหาคมปี 2022 ตามกฎหมายของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ทรัมป์ลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคมปี 2021 เขาจะต้องส่งคืนเอกสารและบันทึกของประธานาธิบดีทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลกลาง
อย่างไรก็ตาม หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ ได้แจ้งว่ามีเอกสารลับจำนวนหนึ่งหายไป ในจำนวนนี้มีจดหมายที่ทรัมป์โต้ตอบกับคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ และจดหมายที่บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทิ้งไว้ให้ทรัมป์หลังออกจากตำแหน่ง
สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI จึงรวบรวมหลักฐานว่า ทรัมป์อาจนำเอกสารที่เป็นบันทึกของรัฐบาล ตลอดจนเอกสารลับสุดยอดต่างๆ ออกจากทำเนียบขาวไปเก็บไว้ที่บ้านพักส่วนตัวในรัฐฟลอริดา
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมปีที่แล้ว หลังได้รับหมายค้นจากศาล FBI ก็บุกเข้าค้นบ้านพักของอดีตประธานาธิบดีรายนี้ที่รีสอร์ทมาร์อาลาโกและพบเอกสารราว 11,000 ฉบับซึ่งมีทั้งเอกสารลับ เอกสารลับมาก ไปจนถึงเอกสารลับสุดยอด บางฉบับถูกระบุว่าเป็นเอกสารที่อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ
ในหมายค้นยังระบุว่า ทรัมป์อาจละเมิดกฎหมาย 3 ข้อ คือ จงใจครอบครองข้อมูลด้านกลาโหม ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม รวมถึงปกปิดและลบบันทึกของรัฐบาล
ด้านทรัมป์ได้ออกมาโวยวายถึงการดำเนินการของ FBI ว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ตัวเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะเอกสารที่เก็บไว้ที่บ้านพักไม่ได้เป็นเอกสารลับอีกต่อไปแล้ว พร้อมทั้งบอกว่าตั้งใจจะส่งมอบเอกสารเหล่านี้คืนให้อยู่แล้วถ้ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ร้องขอมา
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ออกมาสวนกลับทันทีว่า พวกเขาได้ดำเนินการขอเอกสารคืนจากทรัมป์แล้ว แต่ฝั่งทรัมป์คืนเอกสารให้ไม่หมด จึงต้องส่ง FBI ไปยึดส่วนที่เหลือคืนมา
ขณะเดียวกัน เมอร์ริค การ์แลนด์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ ได้แต่งตั้ง “แจ็ค สมิธ” อัยการพิเศษดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อัยการได้รับหลักฐานเพิ่มเติม เป็นไฟล์บันทึกเสียงของทรัมป์ที่ยอมรับว่าเก็บเอกสารลับไว้หลังจากออกจากทำเนียบขาวในเดือนมกราคม 2021
นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่อดีตประธานาธิบดีถูกฟ้องร้องโดยรัฐบาลกลาง ต้องติดตามต่อไปว่า ทรัมป์จะเจอกับข้อหาอะไรบ้างในวันอังคารที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทรัมป์เพิ่งเผชิญกับการฟ้องร้องในหลายคดีความ หนึ่งในนั้นเป็นคดีอาญา ทำให้ทรัมป์กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกตั้งข้อหาในคดีอาญา
ย้อนไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คณะลูกขุนได้ยื่นฟ้องโดนัลด์ ทรัมป์ ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ มีเจตนาปกปิดการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ จำนวน 34 กระทง ซึ่งถือว่าเป็นคดีอาญา
เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2016 ไม่กี่วันก่อนที่แคมเปญการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนั้นจะเริ่มขึ้น โดยเป็นการชิงชัยระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน และฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต
ผู้จ่ายเงินคือ ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความคนสนิทของทรัมป์ ที่ในภายหลังแปรพักตร์มาแฉทรัมป์ในหลายเรื่อง และหนึ่งในนั้นคือการจ่ายเงินให้กับ สตอร์มมี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่จำนวน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4.4 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าปิดปากไม่ให้เธอแพร่งพรายเรื่องความสัมพันธ์ที่เคยมีกับทรัมป์
นอกจากสตอร์มมีแล้ว ยังมีอีก 2 คนคือ พนักงานชายที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูทางเข้า-ออกประจำอาคารทรัมป์ทาวเวอร์ เพื่อปิดปากเรื่องลูกนอกสมรสอย่างลับๆ ของทรัมป์ จำนวน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 960,000 บาทและคาเรน แมคดูกัล อดีตนางแบบนิตยสารเพลย์บอยที่ถูกระบุว่า เป็นอีกคนที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับทรัมป์ โดยทรัมป์จ่ายเงินปิดปากไป 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.8 ล้านบาท
แม้ว่าการจ่ายเงินปิดปากมีโทษไม่สูง แต่ปัญหาก็คือ ฝั่งทรัมป์แจ้งในเอกสารแสดงบัญชีทรัพย์สินและรายรับ-รายจ่ายในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งว่า เงินเหล่านี้เป็น “เงินค่าใช้จ่ายทางกฏหมาย” ซึ่งเข้าข่ายการแจ้งข้อมูลเท็จ ทรัมป์ได้เดินทางไปรับฟังข้อกล่าวหาต่อศาลแล้วเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเขาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่การขึ้นศาลครั้งต่อไปคือวันที่ 4 ธันวาคม
อีกหนึ่งคดีที่ทรัมป์เผชิญคือ คดีล่วงละเมิดทางเพศ อี จีน แคร์รอล อดีตนักเขียนและคอลัมนิสต์ของนิตยสารแอล (Elle) เมื่อ 27 ปีที่แล้ว
การตัดสินคดีความมีขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ทรัมป์ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง แต่เป็นข้อหาที่ทำให้แคร์รอล เสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากทรัมป์ได้โพสต์ข้อความเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับแคร์รอลนับตั้งแต่เธอตัดสินใจยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อปีที่แล้ว โดยทรัมป์ต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 168 ล้านบาท
ส่วนข้อหาข่มขืนซึ่งเป็นข้อหาหลัก คณะลูกขุนมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะเอาผิดกับทรัมป์ ขณะที่ทรัมป์ก็อ้างว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ประณามว่า นี่เป็นการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรมและเตรียมยื่นอุทรณ์ต่อไป
นอกเหนือจากคดีอาญาดังกล่าว ทรัมป์ยังมีคดีความที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวน เช่น การบุกรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคมปี 2021
ผู้สนับสนุนของทรัมป์บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาและทำลายข้าวของ เพื่อต่อต้านประธานาธิบดีไบเดนที่ชนะการเลือกตั้ง โดยทรัมป์อาจโดนข้อหายุยงและปลุกปั่นให้เกิดจลาจล
อีกคดีคือ ความพยายามล้มการเลือกตั้งในปี 2020 หลังมีการเปิดเผยการสนทนาทางโทรศัพท์นาน 1 ชม. ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ และแบรด รัฟเฟนสเปอเกอร์ เลขาธิการรัฐจอร์เจีย พรรครีพับลิกัน ซึ่งทรัมป์พูดว่าต้องการคะแนนเสียงเพิ่มเพื่อให้ได้รับชัยชนะใน Swing state รัฐที่มีคะแนนเสียงสองพรรคสูสีกันคำพูดจาก สล็อตออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ต่อให้ทรัมป์จะถูกตั้งข้อหาในคดีอาญาและถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง แต่เขาก็ยังสามารถลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2024 ต่อไปได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่า ห้ามพลเมืองชาวอเมริกันที่เคยต้องโทษในคดีอาญาลงสมัครเลือกตั้ง มีเพียงข้อกำหนดว่า ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต้องเป็นพลเมืองชาวอเมริกันที่มีอายุอย่างน้อย 35 ปี และเคยอยู่ในสหรัฐฯ ไม่ต่ำกว่า 14 ปี