ในกระบวนการสืบพันธุ์ตามปกติ การที่ชีวิตใหม่จะกำเนิดขึ้นมาได้ ต้องมีการปฏิสนธิกันระหว่างเซลล์สเปิร์มของเพศผู้ และเซลล์ไข่ของเพศเมีย แต่ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้ก้าวข้ามสัจธรรมดังกล่าว ด้วยการ “สร้างตัวอ่อนมนุษย์สังเคราะห์จากสเต็มเซลล์”
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ตัวอ่อนจำลองเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกับตัวอ่อนในระยะแรกสุดของพัฒนาการมนุษย์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อศึกษาผลกระทบของความผิดปกติทางพันธุกรรมและสาเหตุทางชีววิทยาของการแท้งซ้ำโดยไม่ต้องใช้ตัวอ่อนมนุษย์จริง ๆ
ตัวอ่อนเหล่านี้หัวใจจะไม่เต้น สมองจะไม่ทำงาน แต่มีเซลล์ที่ปกติแล้วจะไปสร้างรก และเอ็มบริโอ
ศ.มักดาเลนา เซอร์นิกกา-โกเอตซ์ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า “เราสามารถสร้างแบบจำลองคล้ายเอ็มบริโอของมนุษย์ได้ โดยการตั้งโปรแกรมใหม่ของสเต็มเซลล์จากตัวอ่อน”คำพูดจาก สล็อต888
ไม่มีความเป็นไปได้ในระยะสั้นที่จะใช้ตัวอ่อนสังเคราะห์ในทางคลินิก เพราะการฝังตัวอ่อนสังเคราะห์เข้าไปในครรภ์ของผู้ป่วยถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าตัวอ่อนเหล่านี้มีศักยภาพที่จะเจริญเติบโตต่อไปได้หรือไม่
ฟอสซิลใหม่เผย มนุษย์ยุคแรกออกจากแอฟริกามายังเอเชียเร็วกว่าที่คาด
พบดีเอ็นเอแบคทีเรียโบราณที่เคยก่อ “กาฬโรค” เมื่อ 4,000 ปีก่อน
จำลองใบหน้า ชายชาวอียิปต์ที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 35,000 ปีก่อน
ทีมวิจัยบอกว่า แรงจูงใจในการพัฒนาตัวอ่อนสังเคราะห์ขึ้นมาจากสเต็มเซลล์คือ ต้องการให้นักวิทยาศาสตร์มีโอกาสศึกษาและทำความเข้าใจระยะของพัฒนาการมนุษย์ที่เรียกว่า “กล่องดำ”
“กล่องดำ” ของพัฒนาการมนุษย์ เป็นช่วงเวลา 14 วันหรือประมาณ 2 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิระหว่างสเปิร์มและเซลล์ไข่ ตัวอ่อนจะเริ่มสร้างเซลล์ซึ่งจะพัฒนาเป็นระบบในร่างกายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสมอง ระบบประสาท หรือหัวใจ
ณ จุดนี้ของพัฒนาการมนุษย์ ความพิการแต่กำเนิดและโรคทางพันธุกรรมจำนวนมากจะเริ่มเกิดขึ้น และนักวิทยาศาสตร์มองว่า การศึกษาระยะนี้จะสามารถช่วยให้เราเข้าใจ รักษา หรือป้องกันความผิดปกติดังกล่าวได้ดีขึ้น
แต่ข้อกังวลด้านจริยธรรมเกี่ยวกับการทดลองในมนุษย์ทำให้หน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศสั่งห้ามการวิจัยเกี่ยวกับตัวอ่อนของมนุษย์ที่กำลังพัฒนาในช่วงนี้ และเรียกว่าเป็นระยะ “กล่องดำ” และสามารถศึกษาได้ผ่านการสแกนครรภ์หรือจากตัวอ่อนที่แท้งแล้วมีการบริจาคเพื่อการวิจัยเท่านั้น
โรบิน โลเวลล์-แบดจ์ หัวหน้าฝ่ายชีววิทยาสเต็มเซลล์และพันธุศาสตร์พัฒนาการ จากสถาบันฟรานซิสคริกในลอนดอน กล่าวว่า “แนวคิดของเรื่องนี้คือ ถ้าคุณจำลองพัฒนาการของตัวอ่อนมนุษย์ตามปกติโดยใช้สเต็มเซลล์จริง ๆ คุณจะได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับว่า เราเริ่มต้นการพัฒนาอย่างไร มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นได้บ้าง โดยไม่ต้องใช้ตัวอ่อนจริง ๆ เพื่อการวิจัย”
อย่างไรก็ตาม การสร้างตัวอ่อนสังเคระห์ขึ้นมานี้ยังคงก่อให้เกิดประเด็นด้านจริยธรรมและกฎหมาย
นอกจากนี้ มีคำถามที่ยังไม่มีคำตอบว่า ตามทฤษฎีแล้ว ตัวอ่อนสังเคราะห์เหล่านี้มีศักยภาพที่จะเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ มีรายงานว่า ตัวอ่อนสังเคราะห์ที่เติบโตจากเซลล์ของหนูมีลักษณะเกือบเหมือนกับตัวอ่อนตามธรรมชาติ แต่เมื่อพวกมันถูกฝังเข้าไปในมดลูกของหนูตัวเมีย พวกมันไม่ได้พัฒนาเป็นสัตว์ที่มีชีวิต
ในเดือนเมษายน นักวิจัยในจีนได้สร้างตัวอ่อนสังเคราะห์จากเซลล์ของลิงและฝังเข้าไปในมดลูกของลิงที่โตเต็มวัย ซึ่งมีไม่กี่ตัวที่แสดงสัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ แต่ไม่มีตัวใดที่พัฒนาต่อไปได้เกิน 2-3 วัน นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าอุปสรรคต่อการพัฒนาที่ก้าวหน้ากว่านั้นเป็นเรื่องของทางเทคนิคหรือมีสาเหตุทางชีววิทยามากกว่านั้น
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP